รถยนต์คันแรกของโลก Benz Patent-Motorwagen
หากจะพูดถึงรถยนต์คันแรกของโลก คงจะเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันแบบไม่สิ้นสุดว่ารถยนต์คันแรกคือคันไหนกันแน่ โดยเรื่องนี้ก็มามีจุดสิ้นสุดลงตรงที่มนุษย์ยึดเอาวิธีการใช้รถยนต์แบบแพร่หลาย นั่นคือการใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้ภายในเป็นน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ดังนั้นคนที่สร้างรถยนต์คันแรกด้วยวิธีการนี้ จึงได้กลายเป็นผู้ประดิษฐ์รถยนต์คันแรกของโลกไปโดยปริยาย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็มีคนผลิตยานหานะคล้าย ๆ รถ เพียงแต่ไม่ใช้การเผาไหม้ภายในด้วยน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง
ซึ่งรถที่เรากำลังพูดถึงถูกคิดค้นและจดสิทธิบัตรจากผู้ที่มีนามว่าคาร์ล ฟรีดริช เบนซ์ ผู้ซึ่งเป็นวิศวกรชาวเยอรมัน โดยรถคันดังกล่าวมีชื่อว่า Benz Patent-Motorwagen และแน่นอนว่าชื่อที่คุ้นหูแบบนี้ ก็เป็นต้นกำเนิดของ Mercedes-Benz ในปัจจุบันนั่นเอง
สเปครวมของรถยนต์คันแรก เป็นแบบไหน?
แต่เดิมรูปร่างของรถยนต์คันแรก จะเป็นลักษณะเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาก่อนในปี ค.ศ.1873 ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นเพียงรถที่ไม่สามารถโดยสารได้ แต่หลังจากประมาณ 10 ปี Benz Patent-Motorwagen ก็ถือกำเนิดขึ้น

โดยรถดังกล่าวถูกสร้างในปี ค.ศ.1885 – 1886 เป็นรถสามล้อ ที่วางเครื่องยนต์ไว้ด้านหลัง การเลี้ยวซ้ายขวายังไม่มีพวงมาลัยแบบปัจจุบัน แต่จะใช้เป็นคันโยกที่มีกลไกฟันเฟืองเพื่อเบี่ยงล้อหน้าแทน ล้อทำมาจากยาง ไม่มีหลังคาหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ
ส่วนการขับเคลื่อนจะใช้เครื่องยนต์ส่งผ่านเพลาที่มีโซ่คล้องไปยัง 2 ล้อด้านหลัง(ทั้ง 2 ข้าง) เนื่องจากการส่งผ่านแบบเรียบง่ายจึงทำให้มีแค่ความเร็วเดียว ไม่สามารถลดหรือเพิ่มความเร็วได้ เครื่องยนต์ที่ใช้เป็น 1 สูบแบบ 4 จังหวะ ขนาด 954 cc น้ำหนักเครื่องยนต์รวมแล้วประมาณ 100 กิโลกรัมเท่านั้น ความเร็วอยู่ที่ 250 รอบต่อนาที แม้จะไม่ถึง 1 แรงม้าแต่เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้สร้างจึงเกิดประโยคที่ว่า ‘แค่เพียงแรงท้าเดียวแต่ขับเคลื่อนคนทั้งโลก’ ขึ้นมานั่นเอง
ความสำเร็จจะเกิดไม่ได้หากขาด เบอร์ธา เบนซ์ ผู้เป็นภรรยา
หลังจากที่ Benz Patent-Motorwagen ได้จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว รถยนต์หมายเลข 2 ก็ตามมาติด ๆ โดยเวอร์ชั่นนี้ได้มีการอัปเกรดสเปคของเครื่องยนต์ขึ้นมา ที่ทำความเร็วได้ประมาณ 16กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนรูปร่างก็ยังคงความคล้ายกับรุ่นที่ 1 แต่ความสำเร็จของเขาจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดตัวละครหลักอย่าง เบอร์ธา เบนซ์ ผู้ซึ่งเป็นภรรยา เพราะเธอนี่แหละที่ทำนายความสำเร็จของ Benz Patent-Motorwagen แบบขาดมาจนปัจจุบัน

เธอเป็นผู้จดสิทธิบัตร เบนซ์พาเทนท์-มอทอร์วาเกิน หมายเลข3 ที่เธอตระหนักได้ว่า หากสามีของเธอทำรถออกมาได้ดีขนาดนี้ มันจะต้องขายได้แน่ ๆ เพราะใคร ๆ ก็คงอยากได้อะไรที่สะดวกสบาย เธอจึงได้เริ่มการวางแผนพร้อมกับลูกชายวัยรุ่น 2 คน เพื่อประกาศให้โลกได้รับรู้ว่าการเดินทางด้วยรถคันนี้ดีมากขนาดไหน เช้าตรู่วันนั้นเองเธอและลูกชายแอบเข้าไปในโรงจอดรถ ขณะที่ คาร์ล เบนซ์ ยังคงนอนหลับอยู่ โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่ารถคันแรกของโลกกำลังเคลื่อนตัวออกจากโรงจอดรถไปสู่สายตาของคนทั้งโลกแล้ว
เบอร์ธา เบนซ์ เป็นคนขับ และมีลูกชายนั่งอยู่ข้าง ๆ แผนของเธอมีความเสี่ยงมาก ๆ เป้าหมายของเธอคือต้องการขับจากเมืองมันไฮม์ ไปสิ้นสุดที่เมืองฟอทซ์ไฮม์ในประเทศเยอรมนีบ้านพ่อแม่ ด้วยระยะทางรวมกว่า 194 กิโลเมตร และแน่นอนว่าทุกอย่างไม่ได้ราบรื่น เพราะทันทีที่ถึงระยะทาง 50 กิโลเมตร เชื้อเพลิงของรถดันหมดกลางทาง เธอตั้งสติและแวะเข้าไปยังร้านขายยาแห่งหนึ่ง

เธอเองพอมีความรู้เรื่องวิศวกรอยู่บ้าง เธอเลยจัดการด้วยวิธีของเธอ และแน่นอนมันสำเร็จ! และด้วยรถที่เธอเชื่อมันก็พาเธอพร้อมลูกชายไปยังบ้านพ่อแม่ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินตามที่หวังเอาไว้ เรื่องราวของเธอโด่งดังไปทั่ว เพราะไม่เคยมีหญิงสาวคนไหนทำได้อย่างเธอมาก่อน หลังจากนั้นโรงรถเล็ก ๆ ของคาร์ล เบนซ์ ก็ได้กลายเป็นโรงงานผลิตรถยนต์พรีเมียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดี ๆ ที่กว่าจะสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ไม่ง่ายเลย ปัจจุบัน Mercedes-Benz ได้กลายมาเป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ประกันรถยนต์ชั้น 1 ติดแบรนด์รถหรู ที่ใครหลายคนก็อยากเป็นเจ้าของ เหมือนที่เบอร์ธา เบนซ์คิดเอาไว้ไม่มีผิด
More Stories
รถทะเบียนเดียวกันชนกัน ฮือฮาก่อนวันหวยออก คนรักตัวเลขเตรียมจด
รถยนต์ไฟฟ้ามีมานาน 140 ปี ประวัติศาสตร์ที่ถูกลืมฟื้นอีกครั้ง
เมืองแห่งการดื่มเบียร์ ที่นักดื่มอยากตามเก็บให้ครบก่อนตาย